
วันหนึ่งแดดร่มลมเย็น ฉันเห็นคุณพ่อกับน้าชายฝาแฝดและพี่เขยพร้อมใจกันผิวปาก แบกจอบ ถือเสียมและมีด พากันเดินไปทางหลังบ้าน พากันขุดดินไปร้องเพลงปลุกใจไปด้วย ดังนี้ “กสิกรแข่งขัน คือกระดูกสันหลังของชาติ ไทยจะเรืองอำนาจ เพราะไทยเป็นชาติกสิกรรม” พวกเด็กเล็กเด็กน้อยก็วิ่งเล่นเจี๊ยวจ๊าวเกรียวกราวอยู่ในบริเวณนั้นด้วย พอเพลิน ๆ ก็ได้ยินผู้ใหญ่ตะโกนเตือนว่า เด็ก ๆ อย่าอยู่ด้านหน้าจอบ เดี๋ยวจอบกระเด็นหลุดจากด้ามลอยไปถูกเป็นอันตรายขณะที่เขายกจอบขึ้นสุดแขนเหวี่ยงลงไปขุดดินขึ้นเป็นก้อนโต แล้วใช้เสียมสับย่อยเป็นก้อนเล็กก้อนน้อย เพื่อเตรียมแปลงดินปลูกผัก ขนาดกว้างหนึ่งเมตร ยาวสามเมตร สูงหนึ่งศอก เป็นแถวเรียงลำดับจำนวนหกแปลง พวกเด็ก ๆ มีส่วนร่วมด้วย การช่วยดึงรากหญ้าวัชชพืชออกจากก้อนดิน ทำงานไปพรางปากก็ส่งเสียงถามแจ้ว ๆ ว่า จะปลูกอะไร จะปลูกเมื่อไหร่ จะให้ช่วยอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่า คอยดู คอยดู อีกสองวันสองคืนก็จะได้เห็น เด็กก็ถามต่อด้วยเสียงใสแจ๋วว่า เห็นอะไร เห็นที่ไหน เห็นอย่างไร ก็ได้รับคำตอบเหมือนเดิมว่า คอยดู คอยดู
สัปดาห์หนึ่งผ่านไป บนแปลงดินร่องที่หนึ่งก็ปรากฏยอดแหลมกลมสีเขียวโผล่ขึ้นสลั่งสลอน เป็นแถวเป็นแนวเป็นระเบียบเรียบร้อย น่ารักน่าเอ็นดู ใบต้นหอมนั่นเอง บนแปลงดินร่องที่สองก็ปรากฏยอดแหลมแบนสีเขียวโผล่ขึ้นมากมาย ใบต้นกระเทียมนั่นเอง บนแปลงดินร่องที่สามที่จะขาดจะลืมไม่ได้ก็คือผักบุ้งจีนต้นกะจิดริดใบเขียวนิดเขียวหน่อยกะจ้อยร่อยดูดี บนแปลงดินร่องที่สี่ มีใบของต้นคะน้าเขียวอร่ามงามน่าดูชูก้าน ไหว ๆ บนแปลงดินร่องที่ห้าสุดท้าย คุณผู้อ่านคงทายถูกเพราะจำเป็นมากในกิจกรรมโรยหน้า ….. ก็คือผักชี
เดือนหนึ่งผ่านไปบนแปลงดินทั้งห้า ก็อุดมสมบูรณ์ด้วยพืชผักสวนครัวงอกงามอร่ามตาพร้อมด้วยหยดน้ำเล็ก ๆ เกาะพราวพรายยามเช้าตรู่รุ่งอรุณ เด็ก ๆ ฉงนสนเท่ห์กันยกใหญ่ว่า ยังไม่ได้รดน้ำผักเลย แล้วหยดน้ำมาจากไหน มาเมื่อไหร่ ใครพามา ก็ได้รับคำตอบว่า หยดน้ำค้างมาจากบนฟ้าเย็นฉ่ำเวลากลางคืนในฤดูหนาว ราวเดือนพฤศจิกายน แถมมีหมอกปกคลุมบาง ๆ ด้วย
การเก็บเกี่ยวและรับประทานผลผลิตผ่านไปด้วยสุขภาพพลานามัย แข็งแรง สดใสได้เพิ่มวิตามิน เกลือแร่ น้ำผักธรรมชาติที่ปลอดภัยจากสารพิษ ไร้ชนิดปุ๋ยปลอม แถมประหยัดรายจ่ายได้ดีเยี่ยม น่าชมเชยส่งเสริมสนับสนุนว่า ผิวสวย ตางาม สมองปลอดโปร่ง
ฤดูหนาวผ่านไป ฤดูแล้งผ่านไป ย่างเข้าฤดูฝน เด็ก ๆ ก็เดาก็ทายกันต่าง ๆ นานา ถึงพืชผักสวนครัวรายการต่อไป จะเป็นต้นอะไร สีสรรค์รูปร่างเป็นอย่างไร ลักษณะโดดเด่นจะดูดีมากน้อยปานใด พวกผู้ใหญ่ก็ตอบว่า คอยดู คอยดู รับรองว่าดีกว่าเดิมแม่นมั่น อุแม่เจ้า ! จริงตามคำบอก เริ่มด้วยการมี ไม้ปัก ๆ ๆ ๆ ๆ บนแปลงดินเป็นแถวเป็นระเบียบ ต่อจากนั้นก็ปรากฏใบหยัก ๆ ๆ ๆ ๆ สีเขียวอ่นละมุนละไมโผล่ยอดใบขึ้นมาอย่างร่าเริงเบิกบานรับสายฝนพรมพรำทำให้เด็ก ๆ ดูแล้วสำราญใจใกล้ชิดธรรมชาติ ต่อจากนั้นลำต้นก็งอกงามสูงประมาณสะโพกคนยืนเปรียบเทียบ มีดอกออกช่อกระจุ๋มกระจิ๋มสีขาวพราวพร่างกระจ่างตาพาตื่นเต้นเร้าใจ ตั้งตาคอยดูต่อไปอีกว่า ผลเล็ก ๆ สีขาวปนเขียว ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วก็ค่อย ๆ ๆ ๆ ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ๆ ๆ ๆ ๆ แดง ๆ ๆ ๆ ๆ ขนาดโตเท่าไข่ไก่ฟองเล็ก ๆ อุแม่เจ้า ! ???? เรียกว่าต้นมะเขือเทศ ไงล่ะ รสดีมีหวานอมเปรี้ยว บำรุงผิวสวย สดชื่น เจริญพัฒนาไปถึงดวงตาหวานปานน้ำผึ้งเชียวนะ นำไปปรุงอาหาร ประกอบอาหาร ประดับจานอาหารได้สวยงาม
ปลายฤดูฝนแล้ว เด็กก็ตื่นเต้นเพิ่มมากขึ้นอักโข บนแปลงดินมีหลักไม้ใหญ่เท่าแขนสูงเลยบ่าไหล่ปักเป็นแถวเป็นระเบียบ แถมด้วยกิ่งไม้พาดไปมาอยู่บนคล้ายหลังคาบ้านเรือน โอ้โห ! ปรากฏต้นไม้โตวันโตคืนเลื้อยพันเสาหลักไม้ขึ้นไปทอดยอดพริ้วไสวไกวแกว่งล้อลมเย็นโชยพริ้วมาเยือกเย็นอุราพาให้ชื่นสบายแฮ แล้ววันดีคืนดีก็มีผลผลิตห้อยย้อยระย้าระโยงระยางเต็มไปหมด เด็ก ๆ เข้าไปยืนแหงนหน้ามอง พร้อมส่งเสียงร้องแจ้ว ๆ ว่า สองแบบ สองอย่าง สองชนิด สองประเภท สองรูปร่างต่างกันชัดเจน ดังนี้ ผลยาวกลมสีเขียวเป็นเหลี่ยม …. เรียกว่า บวบ ๆ ๆ ๆ ๆ ผลแบนเป็นฝักสามข้อเมล็ด ….เรียกว่า ถั่วแปบ ๆ ๆ ๆ ๆ คุณประโยชน์เพิ่มเติมคือ แทนโปรตีนจากสัตว์
คุณผู้อ่านลองชวนเชิญชิมแกงเลียงบวบใส่กุ้งสีชมพู ผัดบวบใส่ไข่นกกระทาใบน่ารัก ต้มบวบจิ้มน้ำพริกปลาทู ฯลฯ แกงส้มถั่วแปบใส่ไก่ ใส่ปลา ใส่หมู ฯลฯ