สาวแดน…สวนสุนันทา…สาวงาม…สวยเลิศลักขณา…มีสมญาใครเขาก็รู้…เฉิดฉวีนารียอดพธู…สาวสุนันทา…แดนสีชมพู…น้ำเงินสดหรู…คู่วิไล…คุณผู้อ่านฮัมเพลงข้างบนนี้ไปพลาง ๆ อย่างคลายเครียดสลับการเล่าเรื่องราวสาวเพิ่มทรัพย์ รับงานเข้าประกวดขวัญใจน้องใหม่ปีหนึ่งซึ่งมาจากทุกจังหวัดทั่วเขตประเทศไทย
สืบเนื่องมาจากประเพณีพวกพี่ๆ เลี้ยงอาหารต้อนรับน้องใหม่แล้วมอบตำแหน่งขวัญใจให้รางวัลขันน้ำล้างหน้าตามประสานักเรียนประจำหอพักบุตรข้าราชการ หอพักตึกหก ตึกสิบเก้า ตึกยี่สิบเอ็ด ยี่สิบสอง ยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ ยี่สิบห้าและยี่สิบหก ตามธรรมเนียมของบรรดาสาวงามที่ต้องเตรียมตัวเข้าประกวดอวดโฉมสคราญตา ได้แก่ แต่งหน้า ทำผม รีดชุดราตรี ซ้อมเดินด้วยรองเท้าซ่นสูง ฝึกยิ้ม
ปรากฏว่านางเอกสาวเพิ่มทรัพย์ ๑. ถูกจัดซอยผมสั้นตามสมัยนิยม ก็ดูดีพอใช้ ได้มองเห็นแก้มนวลสาวธรรมชาติ ๒.ถูกจัดยัดสำลีใส่เสื้อชั้นในยกทรงเสริมหน้าอกได้มองเห็นอิ่มเต็มตาคณะกรรมการ ๓. ถูกจับทาปากสีแดงแปร๊ด ตัดกับเสื้อสีเหลืองจ๋อยจีบรอบเอวพองฟูดูราวกับสุ่มไก่นั่นแหล่ะ ๔. ต้องเดินรำวงแบบไทยสลับเต้นรำแบบฝรั่ง แล้วก็หมุนรอบทิศให้กรรมการเพ่งพิศแลมองเห็นสองตาพาเพิ่มคะแนนความสามรถพิเศษบนพื้นเวทีประกวดคือลานห้องอาหารรวมนักเรียนห้าร้อยคนนั้นแหล่ะ
ผลการประกวด อวดกับทุกคนตลอดมาได้อย่างเกินคาดคิด ดังนี้ หนึ่งได้รับคัดเลือกตกรอบแรก สองได้รับเสียงปรบมือแสดงความสงสารดังเปาะแปะ สามได้รับประทานยาแก้แก้มเมื่อยเคล็ดขัดยอกเนื่องจากแจกยิ้มพิมพ์ใจให้ผู้ชมที่เชียร์อยู่รอบเวที เฮ้อ! โล่งอก! หลังจากยกสำลีที่ยัดเสื้อออกแล้ว แหม! อุ๊ย! เปล่าร้องไห้นะ! จะต้องไปเสียน้ำตาเสียเวลาชมเพื่อนที่สวยงามกว่าทำไม กลับดีด้วยซ้ำที่ได้มีเพื่อนเป็นขวัญใจ ได้นั่งเรียนใกล้กัน ได้มองเห็นอยู่ตรงหน้าโดยไม่ต้องไปส่องกระจก
เหตุการณ์ผ่านไปถึงปีที่สอง ต้องเป็นพี่เลี้ยงนางงามน้องใหม่ ขวัญใจคนต่อมาตามประสาผู้มีประสบการณ์มาเมื่อปีที่แล้ว เป็นงานมอบหมายที่ง่ายแต่ลำบากตรงที่ต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าไว้คอยซับน้ำตาเช็ดำน้ำให้คุณเธอ ๒ ผืน คือผืนแรกร้องไห้คิดถึงบ้าน และผืนหลังร้องไห้ตกรอบ ปรากฏผลการประกวดพลิกล็อคคือ ผ้าเช็ดหน้าผืนแรกเก็บไว้กระเป๋าเพื่อนชายช่วยปลอบใจได้ปราศจากน้ำตา เพราะลืมร้องไห้คิดถึงบ้าน ผ้าเช็ดหน้าผืนที่สองใช้แสดงความยินดีที่ได้รองตำแหน่งขวัญใจ เฮ้อ! โล่งใจพี่เลี้ยงที่ผลงานสำเร็จดีเกินคาด …ดังนั้นคณะกรรมการชุดใหม่จึงเรียกพบแจ้งให้เตรียมตัวพี่เลี้ยงคนเก่งกลับไปประกวดอีกครั้งในงานฉลองครบร้อยปีของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ คุณผู้อ่านทายถูกว่า นางเอกสาวเพิ่มทรัพย์ปฏิเสธด้วยการส่ายหน้าแต่ทายต่อไปเกี่ยวกับคำพูดยังนึกไม่ออก…บอกว่า…ประกวดตกรอบครั้งที่สองไม่อายตัวเองหรอกเพราะเจียมตัวอยู่แล้ว แต่เกรงใจกองเชียร์คณะใหม่ที่ต้องผิดหวังอย่างแรงจากพวกเขาเหล่านักเรียนลูกศิษย์ฝึกสอนจำนวนร้อยคนทั้งชายและหญิง
ครั้นขึ้นเรียนปีที่สาม ก็ต้องแต่งกายชุดสาวชาวเกาะมีพวงมาลัยคล้องคอคล้องแขนข้อมือ คุณผู้อ่านคงยิ้มขำอีกคำรบสองว่า จะต้องมีการยัดสำลีใส่เสื้อชั้นในยกทรงอีกแล้วซีนะ….เปล่านะๆๆ คราวนี้เป็นคุณพี่ใหญ่แล้ว คิดเอง ทำเอง ดังนี้
- ผมไม่ดัด…แต่ทัดดอกไม้
- ปากไม่ทาสีแดง…แต่งแต้มด้วยสีชมพู
- เสื้อไม่เหลือง…แปลงเป็นขาว
- รองเท้าซ่นไม่สูง…หุ้มซ่นเตี้ยสะดวกเดินบนเกาะ
:- ชุดข้างบนนี้ทำหน้าที่เสริฟอาหารสำหรับแขกที่นั่งเรือพายมาขึ้นชมธรรมชาติบนเนินสูง แล้วดัดแปลงผ้านุ่งชาวเกาะเป็นผ้านุ่งโจงกระเบนแล้วร้องเพลงพวงมาลัยโดยใช้ดอกไม้รีไซเคิ้ลจากมาลัยคล้องคอ
เมื่อเรียนปีสี่พี่ชั้นสูงสุด ชุดกิจกรรมทิ้งทวน ควรแก่ความทรงจำอมตะ ประเพณีสาวอีสาน นุ่งซิ่นไหมเสื้อแขนกระบอก เกล้าผมลาว ขายอาหารพื้นบ้านประจำถึ่นกินแซ่บหลาย…คุณผู้อ่านคงทายได้ตรงเป๋งคือ ข้าวเหนียว ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบก้อย แขกลูกค้ารายแรกเป็นพี่ชายของเพื่อน มานั่งกินนั่งดื่มนั่งฟังเพลงพอสมควรแก่เวลา ก็จ่ายเงินแล้วเอ่ยคำอำลาดังนี้ ที่คุณผู้อ่านต้องไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย…..ว่า…น้องลองเลิกยิ้มสักประเดี๋ยวได้ไหม เพราะตั้งแต่ผมมานั่งถึงกระทั่งจะกลับบ้านแล้ว ยังไม่ได้เห็นใบหน้า..แบบเฉยปกติธรรมดาแบบรูปถ่ายก่อนรับปริญญา…ก็แหม…แหมๆๆ…พี่เขาไม่รู้ว่านี่แหล่ะขวัญใจสาวสวนสุนันทายิ้มค้างมาตั้งแต่อยู่ปีที่หนึ่งโน้นเน้อ…..