คุณผู้อ่านหลายท่านคงเคยจัดงานฉลองคล้ายวันเกิดแบบอย่างชาวพุทธ คือไปวัดทำบุญใส่บาตรถวายสังฆทาน หรือ แบบเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า หรือบริจาคโลหิตเป็นกุศลประโยชน์ และส่วนมากนิยมจัดงานรื่นเริง ดื่มกินกันอย่างสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงใจ ได้บรรยากาศอบอุ่น ได้ร้องเพลงอวยพร ได้รับของขวัญเป็นช่อดอกไม้สีสวยหอมอบอวล เป็นกล่องผูกโบว์งดงาม เป็นกระเช้าผลไม้บำรุงสุขภาพ เป็นซองใส่แก้วสาระพัดนึก เป็นต้น ด้วยกิจกรรมที่น่าชื่นชมดังกล่าวช้างต้นนี้ จึงเป็นเหตุบันดาลใจให้นางเอกสาวชื่อเพิ่มทรัพย์ตกลงใจจัดงานวันเกิดให้กับชีวิตของตนเองสักครั้งหนึ่ง…… เชิญติดตามขั้นตอนดำเนินงานดังนี้

สิ่งแรกคือเชิญแขก…..เฉพาะบุคคลร่วมตระกูลของเราก็มากมายล้นหลามเหลือเฟือตามรายการต่อไปนี้
- แขกอาวุโส ได้แก่ คุณแม่ คุณน้าชายฝาแฝดพร้อมคุณน้าสะใภ้ และอีกหนึ่งคนคือคุณพี่หญิงลูกสาวคุณป้า
- แขกร่วมท้องน้องร่วมไส้ ได้แก่ น้องสาวพร้อมน้องเขย น้องชายพร้อมน้องสะใภ้ …อ๋อ ! แสดงว่าเจ้าภาพเป็นพี่สาวคนโต
- แขกวัยรุ่นเอ๊าะๆ ได้แก่ หลานของลูกคุณน้า หลานของลูกคุณพี่ หลานของลูกน้องสาว หลานของลูกน้องชาย
ซึ่งพวกเขา เหล่านี้เต็มใจพร้องเพรียงกันดีมากในการหอบหิ้วของกินนานา ขบเคี้ยวพร้อมเครื่องดื่มนานาเลิศรส และรวมถึงของขวัญอวยพรที่ถูกใจผู้รับคือ “สีชมพู”….ชัดแจ๋ว เลย ….. เกิดวันอังคารแน่นอน ดังนั้นเจ้าภาพจึงสบายหายห่วงเรื่องอาหารการกินได้เลย และเพื่อตอบแทนน้ำใจไมตรีดีงามครั้งนี้ เจ้าภาพได้เตรียมของชำร่วยมอบให้แขกเหรื่อที่น่ารักทั้งหลาย ดังนี้
- คุณแม่ ได้รับผ้าคลุมผมบางเบาสีสวยหวานแหว๋ว
- คุณน้า ได้รับผ้าไหมสีฟ้าสวยใสสว่างกระจ่างตา
- คุณพี่หญิง ได้รับกระเป๋าประดิษฐ์ใส่ไม้พันสำลี
- คุณน้อง ได้รับกล่องไม้จิ้มฟันจุ๋มจิ๋มยิ้มสะอาด
- คุณหลาน ได้รับถ้วยขนมเยลลี่รสผลไม้

สิ่งจำเป็นลำดับต่อมา คือที่นั่งหลายรูปแบบตาม อัธยาศรัย ตามถนัดของแต่ละคน แต่ละกลุ่มสมาชิก สงสัย ?….ทำไมที่นั่งจึงมากเรื่องซับซ้อนโยกโย้โก้หรูชูที่รองก้นอย่างลำบากลำบนหนักหนาโปรดฟังเฉลยต่อไปนี้
1. เสื่อปูนั้งที่พื้นเป็นปัญหากับคนแก่เฒ่านั่งไม่ลง เพราะปวดขามาก ปัญหาหนุ่มสาวนั่งไม่ลง เพราะกางเกงคับมาก ปัญหาของเด็กเล็กคือคลานออกไปเล่นฝุ่น
2. เก้าอี้สูงหัวกลม ปัญหาคือเด็กเล็กนั่งเผลอหงายหลังหล่นตุบ ..โฮโฮ … แงแง
3. เก้าอี้มีพนักหลัง มีที่วางแขน ปัญหาคือ เด็กเล็กนั่งซุกซนหน้าคว่ำ ร่วงผลอยลงล่าง …ฮือฮือ … แงแง
4. เก้าอี้เตี้ยนั่งชูเข่า ย่างเนื้อกระทะบนเตาไฟถ่านลุกแดงโชน ปัญหาคือ เด็กเล็กเล่นแหย่ไฟ …ร้อนร้อน … แงแง
5. งั้นเปลี่ยนเป็นยืนหมดทุกคนแบบสากลนิยม ปัญหาคือ พ่อลูกอ่อน แม่ลูกอ่อน อุ้มลูกมือหนึ่ง อีกมือหนึ่งตักของกินใส่ปากเมื่อยแน่

สิ่งที่ต้องพูดถึง เป็นลำดับต่อมา คือชุดวันแรกเกิดของเจ้าภาพ ต้องงดเว้นโดยเด็ดขาด เนื่องจาก โป๊ เปลือย เหี่ยว ย่น ยู่ยี่ ที่เด็กในโทรทัศน์เรียก ยาย…ยาย…ยายมิสทีนนั่นเลย เรื่องเครื่องแต่งตัวนี้หายห่วงได้เลย เพราะชุดแฟชั่นประจำตัวหนึ่งเดียวของเจ้าภาพที่ทุกคนรับรองว่าเป็นอภิอมตะมหานิรันดร์กาล ประสานรูปร่างอย่างเหมาะสมที่สุด คือ เสื้อมีปก มีแขน สีชมพูมีดอกไม้ประปรายน่าเอ็นดูกับกระโปรงบานจีบรอบเอว ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่า .. ปิดบังพุ่งอ้วน แต่เจ้าตัวบอกว่า…. เพื่ออำพรางตะโพกผอมเล็กน้อย พูดถึงเครื่องประดับประจำคอ ได้แก่ สร้อยทองคำแขวนพระรอด…สาธุ…คุณพระรัตนตรัย คุ้มครองแคล้วคลาดปลอดภัยเทอญ สิ่งที่อยู่เบื้องล่างสุดของร่างกายหมายถึงรองเท้าสีชมพู ที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า รองเท้าหุ้มซ่นสีชมพู รองแตะสีชมพู รองเท้าซ่นสูงสีชมพู รองเท้าซ่นเตี้ยสีชมพู รองเท้าไปทำงานและรองเท้าลำลองล้วนแล้วเป็นสีชมพู ซึ่งหลานสาวตัวน้อยนักเรียนอนุบาลจำได้ดีไปชี้บอกที่แผนกขายรองเท้าที่ห้างสรรพสินค้าหลายแห่งเสมอๆ ว่า ….รองเท้าคุณยายค่ะ

คุณผู้อ่านมาถึงตอนท้าย ของเรื่องสาวจัดงานวันเกิดแล้วนะคะ… เมื่อทุกคนอิ่มหนำสำราญใจได้เบิกบานพอสมควรแล้ว ก็เป็นวาระสำคัญอันเป็นประเพณีนิยมปฏิบัติเสมอมา คือ เจ้าภาพถูกยืนห้อมล้อมพร้อมด้วยเค้กวันเกิด กับเสียงเพลง แฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูยู เป็นภาษาฝรั่งแล้วแปลเป็นภาษาไทยตามจุดประสงค์ของคนรักชาติไทย ดังนี้
ให้สุขสันต์ วันเกิดวันนี้
ให้สุขศรี วันเกิดเกริกไกร
ให้สุขสม วันเกิดตลอดไป
ให้สุขกายใจ วันเกิดตลอดกาล …ไชโย ๆๆๆ
แล้วสิ่งที่ทุกคนได้ฮากันครืนโดยมิได้นัดหมาย ด้วยความขำสุด ๆ พร้อมกันคือ พริบตาเดียวขณะที่แฟล็ชถ่ายรูปแว๊บขึ้น ขณะที่เจ้าภาพยิ้มหวานหยดย้อยรับฟังเพลงอวยพรพร้อมเสียงปรบมือกึกก้องอยู่นั่นเอง เจ้าหลานชายตัวเล็กกะเปี๊ยกที่ยืนหัวเสมอขอบโต๊ะตั้งเค๊กที่จุดเทียนสีสวยใสสว่างพร่างพราวพรายแพรว ได้ยืดคอขึ้นแล้วเป่าพรวดดับเทียนทันทีทันควัน ….ฮ่า ฮ่า ฮ่า …. หลานเอ๋ยหลาน….. ปีหน้าฟ้าใหม่โน่น…เจ้าภาพตัวจริงจึงจะมีโอกาสได้เป่าเทียนเค้กวันเกิดของตัวเอง…ฮ่า ฮ่า ฮ่า … คุณผู้อ่านขำด้วยเน้อ